รูปแบบทางเทคนิค (Technical Patterns) เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุทิศทางของราคาในอนาคตได้จากการเคลื่อนไหวในอดีต รูปแบบทางเทคนิคถูกใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของราคาในตลาดฟอเร็กซ์ หุ้น หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ตัวอย่างรูปแบบทางเทคนิคที่นิยม ได้แก่ รูปแบบหัวและไหล่ (Head and Shoulders), รูปแบบสองยอด (Double Top), และรูปแบบสองฐาน (Double Bottom)

รูปแบบหัวและไหล่เป็นรูปแบบการกลับตัวที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาขึ้นไปเป็นแนวโน้มขาลง รูปแบบนี้ประกอบด้วยสามส่วนคือ หัว (Head) ที่อยู่ตรงกลางและสูงที่สุด และไหล่ทั้งสองข้าง (Shoulders) ที่อยู่ข้าง ๆ และมีความสูงต่ำกว่าหัว เส้นที่ลากเชื่อมจุดต่ำสุดของไหล่ทั้งสองเรียกว่า "เส้นคอ" (Neckline) การทะลุเส้นคอลงมามักเป็นสัญญาณการกลับตัวของราคา

รูปแบบสองยอดเป็นรูปแบบการกลับตัวที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้นไปเป็นแนวโน้มขาลง รูปแบบนี้ประกอบด้วยยอดราคาสูงสองครั้งที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยมีจุดต่ำระหว่างยอดสองจุดเรียกว่า "เส้นคอ" (Neckline) หากราคาลดลงและทะลุเส้นคอลงไป จะเป็นสัญญาณการกลับตัวของตลาด

รูปแบบสองฐานเป็นรูปแบบการกลับตัวที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนจากแนวโน้มขาลงไปเป็นแนวโน้มขาขึ้น รูปแบบนี้คล้ายกับรูปแบบสองยอด แต่ในทางตรงกันข้าม ประกอบด้วยราคาที่ลดลงสองครั้งจนถึงระดับต่ำใกล้เคียงกัน แล้วราคากลับขึ้นไป การทะลุเส้นคอที่เชื่อมระหว่างยอดราคาสูงจะเป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นของตลาด

นักเทรดสามารถใช้รูปแบบทางเทคนิคเหล่านี้เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตและหาจุดเข้าและออกจากตลาด การระบุรูปแบบเหล่านี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจเทรดได้แม่นยำมากขึ้น เมื่อรูปแบบเกิดขึ้นและราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่กำหนด จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าราคากำลังจะเปลี่ยนทิศทาง

การใช้รูปแบบทางเทคนิคในการวิเคราะห์มีข้อดีหลายประการ เช่น:

• ช่วยให้นักเทรดระบุจุดกลับตัวของแนวโน้มได้อย่างแม่นยำ
• ช่วยในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของราคา
• สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

รูปแบบทางเทคนิค เช่น รูปแบบหัวและไหล่ รูปแบบสองยอด และรูปแบบสองฐาน เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์การกลับตัวของแนวโน้ม นักเทรดสามารถใช้รูปแบบเหล่านี้ในการตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีหลักการ โดยการเข้าใจรูปแบบและการทะลุแนวรับหรือแนวต้านในแต่ละกรณีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา