ค่าเฉลี่ยความผันผวนจริง (Average True Range หรือ ATR) เป็นอินดิเคเตอร์ที่นิยมใช้ในการวัดความผันผวนของตลาดฟอเร็กซ์ ATR ไม่ได้บ่งบอกถึงทิศทางของตลาด แต่ช่วยให้นักเทรดเข้าใจถึงระดับความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดในช่วงเวลาหนึ่ง การวัดความผันผวนนี้มีประโยชน์ในการจัดการความเสี่ยง การตั้งค่าคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop Loss) และการหาจังหวะในการเทรด

ATR ถูกคำนวณจากค่า True Range (TR) ซึ่งเป็นการหาช่วงความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุดในแต่ละวัน หรือระหว่างราคาปิดของวันก่อนหน้าและราคาสูงสุดหรือต่ำสุดของวันนั้น ๆ ค่าเฉลี่ยของ TR เหล่านี้ในช่วงระยะเวลาที่กำหนดจะเป็น ATR ตัวอย่างเช่น ATR 14 หมายถึงค่าเฉลี่ยของ TR ในช่วง 14 วัน

การตีความ ATR ในการเทรดสามารถทำได้ดังนี้:

• ATR สูง: แสดงถึงความผันผวนที่สูง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
• ATR ต่ำ: แสดงถึงความผันผวนที่ต่ำ ซึ่งอาจบ่งบอกว่าตลาดเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบ

หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้ ATR คือการตั้งค่าคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop Loss) นักเทรดสามารถใช้ ATR เพื่อคำนวณระยะห่างจากราคาปัจจุบันในการตั้งค่า Stop Loss ยิ่ง ATR สูง การตั้งค่า Stop Loss ควรอยู่ห่างจากราคามากขึ้นเพื่อรองรับความผันผวน ในทางตรงกันข้าม ATR ต่ำอาจหมายถึงการตั้ง Stop Loss ที่ใกล้ขึ้น

ATR เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวัดระดับความผันผวนของตลาด ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าออกจากตลาดได้อย่างแม่นยำขึ้น เช่น หาก ATR สูง อาจบ่งบอกถึงการเกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ซึ่งนักเทรดสามารถใช้โอกาสนี้ในการเทรดได้

ATR มีข้อดีและข้อเสียที่นักเทรดควรพิจารณา:

• ข้อดี: ช่วยในการวัดความผันผวนของตลาด ทำให้นักเทรดสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
• ข้อเสีย: ATR ไม่ได้บอกทิศทางของตลาด นักเทรดต้องใช้เครื่องมืออื่นร่วมกันเพื่อวิเคราะห์ทิศทาง

ค่าเฉลี่ยความผันผวนจริง (ATR) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดฟอเร็กซ์เข้าใจถึงระดับความผันผวนของตลาดและสามารถใช้ในการตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ATR ไม่ได้บอกทิศทางของตลาด แต่ช่วยให้นักเทรดมีข้อมูลเกี่ยวกับความแรงของการเคลื่อนไหวในตลาด