เหตุการณ์ทางการเมืองมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดฟอเร็กซ์ ความไม่แน่นอนทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง ความขัดแย้งระหว่างประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางเศรษฐกิจ มักจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน เหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดอย่างมาก
การเลือกตั้งเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน ผลลัพธ์ของการเลือกตั้งสามารถทำให้ค่าเงินแข็งค่าหรืออ่อนค่าขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ชนะ หากนโยบายของรัฐบาลใหม่ถูกมองว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจ นักลงทุนอาจมีความเชื่อมั่นและผลักดันค่าเงินให้แข็งค่า ในทางกลับกัน หากนโยบายไม่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ค่าเงินอาจอ่อนตัวลง
สงครามและความขัดแย้งระหว่างประเทศส่งผลให้ตลาดฟอเร็กซ์เกิดความผันผวน สกุลเงินของประเทศที่มีความขัดแย้งมักจะอ่อนค่าลงเนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและการลงทุน นักลงทุนมักจะหลีกเลี่ยงการลงทุนในสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงและเปลี่ยนไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำหรือเงินดอลลาร์สหรัฐ
นโยบายเศรษฐกิจใหม่ เช่น การเปลี่ยนแปลงภาษี การควบคุมการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย มีผลกระทบโดยตรงต่อตลาดฟอเร็กซ์ หากรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลดภาษีหรือการเพิ่มการใช้จ่าย การเติบโตทางเศรษฐกิจจะส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น แต่ถ้านโยบายทำให้เกิดภาระหนี้สินสูง อาจทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลง
ในปี 2016 ผลการลงประชามติ Brexit ของสหราชอาณาจักรส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจและการค้าในสหราชอาณาจักรและยุโรป
เหตุการณ์ทางการเมืองมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดฟอเร็กซ์ ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ทางการเมืองสามารถทำให้ค่าเงินแข็งค่าหรืออ่อนค่าลง การติดตามข่าวสารทางการเมืองและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ