ความเสี่ยงในตลาดหุ้นและตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ตลาดหุ้นและตลาดแลกเปลี่ยนมีความเสี่ยงในการลงทุนที่ชัดเจน แต่มีความแตกต่างกันบางประการที่ทำให้สามารถเข้าใจได้ง่าย: 1. ตลาด Forex เป็นการซื้อขายที่มีเลเวอเรจ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและสามารถให้ผลตอบแทนสูง; ขณะที่ตลาดหุ้นเป็นการซื้อขายด้วยเงินลงทุน 1:1 แต่จากสภาวะตลาดในปัจจุบัน หุ้นและกองทุนต่างๆ ย่อมต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางระบบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งความเสี่ยงนี้จะคำนวณตามสัดส่วนกับเงินลงทุน ดังนั้นจึงถือว่าความเสี่ยงนั้นไม่ต่างจากการลงทุนใน Forex เลย

ลักษณะการซื้อขายในตลาด

ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีเส้นทางการซื้อขายสองทางทั้งการซื้อ (Long) และการขาย (Short) ขณะที่ตลาดหุ้นเป็นตลาดที่มีเส้นทางการซื้อขายเดียว ซึ่งอาจเจอสถานการณ์ที่ราคาหุ้นลดลงอย่างรุนแรงถึงหลายเดือนหรือหลายปี โดยต้นทุนด้านเวลานั้นไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับตลาด Forex

เวลาการซื้อขาย

การซื้อขายในตลาด Forex คือ T+0 ซึ่งหมายถึงสามารถรับผลกำไรและทำการขายได้ทันทีในขณะที่ตลาดหุ้นคือ T+1 คือสามารถขายได้ในวันถัดไป และหากราคาเริ่มลดลงตั้งแต่วันถัดไป นักลงทุนอาจจะไม่มีโอกาสทำอะไรเลย

ขนาดของตลาด

ตลาด Forex เป็นตลาดระดับโลก ซึ่งไม่มีสถาบันไหนสามารถควบคุมตลาดขนาดมหาศาลนี้ได้ ขณะที่ตลาดหุ้นมีสถาบันและเจ้ามือที่สามารถกำหนดราคาได้ซึ่งผู้ลงทุนรายย่อยไม่สามารถท้าทายได้เลย

ค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย

ยกตัวอย่างบริษัทที่ผมลงทุน โดยในตลาด Forex คิดค่าธรรมเนียมที่คงที่ ซึ่งค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมครั้งหนึ่งอยู่ที่ 240 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเงินทุน 2000 ดอลลาร์ต่อสัญญา พร้อมอัตราเลเวอเรจ 1:300 โดยการคำนวณเงินทุนที่สามารถทำได้คือ 600,000 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นการใช้เงินลงทุนเพียง 1% ขณะที่ค่าธรรมเนียมสองทางในตลาดหุ้นมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 3%

เวลาตลาดเปิด-ปิด

ตลาดหุ้นจะเปิดและปิดในช่วงเวลาทำงาน ทำให้ยากต่อการติดตาม; ในขณะที่ตลาด Forex เป็นตลาดระดับโลก และถือเป็นเวลาที่เหมาะสมแม้ในช่วงเวลาพักผ่อนในตอนกลางคืน นักลงทุนสามารถทำงานพร้อมกับการซื้อขาย Forex ได้

สรุป

ในทางการลงทุนมีสุภาษิตว่า "อย่าวางไข่ในตะกร้าใบเดียว" ขณะที่ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในภาวะซบเซา ขอให้ผู้ลงทุนทุกท่านได้ค้นพบโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex ขึ้นมา