การลงทุนในหุ้น vs การลงทุนในฟอเร็กซ์

สำหรับหลายครอบครัว การทำให้ “เงินทำงาน” เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความคิดเป็นอย่างมาก การลงทุนในหุ้นเป็นตัวเลือกหนึ่งในหลาย ๆ ตัวเลือกของผู้ลงทุน แต่ตอนนี้ มีกลุ่มคนที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ นั่นคือกลุ่มที่ลงทุนในฟอเร็กซ์

ทำไมผู้คนถึงเลือกการลงทุนในฟอเร็กซ์?

จากการสำรวจ ผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าตลาดฟอเร็กซ์มีความยุติธรรมมากกว่าตลาดหุ้น ซึ่งมีความโปร่งใสมากกว่า เนื่องจากไม่มีใครสามารถควบคุมตลาดขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ สำหรับผู้ที่มีทุนค่อนข้างน้อย โอกาสที่เท่าเทียมกับนักลงทุนสถาบันทำให้พวกเขามีโอกาสในการลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดฟอเร็กซ์เปิดทำการ 24 ชั่วโมง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานประจำในการลงทุนฟอเร็กซ์ในเวลาว่าง

ความคิดเห็นของนักลงทุนหุ้น

จากการสำรวจ เราพบว่า 65% ของนักลงทุนหุ้นเชื่อว่าสามารถพิจารณาเข้าร่วมตลาดฟอเร็กซ์ในอนาคต ขณะที่ 30% กล่าวชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมตลาดนี้

ความรู้เกี่ยวกับตลาดฟอเร็กซ์

1. นักลงทุนหุ้นส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักตลาดฟอเร็กซ์ ในขณะที่นักลงทุนฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่จะรู้จักตลาดหุ้น

2. เปรียบเทียบกันแล้ว ตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง ผู้ที่ติดอยู่ในตลาดมากมาย กลับกัน ตลาดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงต่ำ ค่าใช้จ่ายน้อย และมีผู้ที่ติดอยู่ในตลาดน้อย

3. ปัจจัยหลักที่จำกัดคนเข้าร่วมตลาดฟอเร็กซ์ คือ ช่องทางการเข้าถึงฟอเร็กซ์ยังไม่สะดวก และข้อมูลในตลาดฟอเร็กซ์มีน้อยเกินไป

4. ถ้ามีเงื่อนไขที่เหมาะสม นักลงทุนส่วนใหญ่ยินดีที่จะลองเข้ามาสู่ตลาดฟอเร็กซ์

ตลาดฟอเร็กซ์ในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน ปริมาณการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ทั่วโลกมีมูลค่ามากกว่า 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าตลาดนี้จะมีประวัติไม่นาน แต่การเติบโตนั้นน่าทึ่งมาก ขนาดของตลาดนี้ได้เกินตลาดหุ้น ตลาดฟิวเจอร์ส และตลาดการเงินอื่น ๆ กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ข้อดีของการลงทุนในฟอเร็กซ์

1. ต้นทุนการลงทุนต่ำ การซื้อขายฟอเร็กซ์ผ่านการมาร์จิ้น คือ การซื้อขายที่เกิดจากการใช้เครดิตที่ธนาคารหรือโบรกเกอร์ให้ ซึ่งธนาคารหรือโบรกเกอร์ต่าง ๆ มักมีเครดิตมากกว่า 90% นั่นหมายความว่านักลงทุนสามารถใช้เงินเพียง 10% ในการลงทุน เช่น บางบริษัทโบรกเกอร์ระบุว่า ต้องใช้มาร์จิ้นขั้นต่ำที่ 100 เท่า นักลงทุนสามารถเข้าเทรดฟอเร็กซ์ได้โดยใช้มาร์จิ้นเพียง 100 ดอลลาร์ สำหรับการซื้อขายสูงสุด 10,000 ดอลลาร์ ยังมีโบรกเกอร์ที่มีเงื่อนไขที่ต่ำกว่านี้อีก ตั้งแต่ 200 เท่า 400 เท่า ในตลาดหุ้นจีน ยังไม่มีฟังก์ชันเลเวอเรจแบบนี้

สามารถทำกำไรได้ทั้งสองทาง

หนึ่งในข้อเสียของตลาดหุ้นคือในช่วงตลาดหมี นักลงทุนไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องติดอยู่ในตำแหน่ง ในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัว นักลงทุนส่วนมากสามารถสร้างรายได้ แต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมีลักษณะสลับกัน เมื่อการเติบโตถูกทดแทนด้วยการหดตัว นักลงทุนถูกบังคับให้ต้องถือหุ้นตลอดไป แต่ในตลาดฟอเร็กซ์ ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะขยายตัวหรือหดตัว นักลงทุนสามารถสร้างรายได้ ซึ่งเป็นกลไกการขายชอร์ตในฟอเร็กซ์ กล่าวคือ ในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลใดสกุลหนึ่งมีแนวโน้มสูง นักลงทุนสามารถซื้อเพื่อทำกำไร ในขณะที่ราคาอาจตกลง นักลงทุนยังสามารถขายเพื่อทำกำไรได้ โดยไม่จำเป็นต้องถือสกุลเงินนั้นอยู่ในมือก่อน

ค่าธรรมเนียมต่ำ

ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหุ้นโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2‰ ในขณะที่การซื้อขายฟอเร็กซ์แบบมาร์จิ้นในปัจจุบันส่วนใหญ่จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม และค่าสเปรดก็ต่ำมาก ประมาณสามถึงสี่จุดเท่านั้น

ความคุ้นเคยกับกลไกมาร์จิ้น

กลไกการมาร์จิ้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ที่เคยทำการซื้อขายฟิวเจอร์ส ปัจจุบัน ตลาดฟิวเจอร์สในประเทศใช้วิธีการมาร์จิ้นเป็นหลัก การซื้อขายหุ้นในต่างประเทศก็มีมากมายที่ใช้วิธีนี้ในการเทรดเช่นกัน