การวิเคราะห์ทางเทคนิคในฟอเร็กซ์

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการลงทุนในฟอเร็กซ์ และดัชนีทางเทคนิคเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนสามารถวิเคราะห์ทิศทางของตลาด วินิจฉัยจุดซื้อขาย และเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อขาย เป็นต้น ในที่นี้ ขอนำเสนอ 10 ดัชนีทางเทคนิคที่ผู้ลงทุนในฟอเร็กซ์ต้องรู้จัก

1. อัตราความเบี่ยงเบน (BIAS)

อัตราความเบี่ยงเบนแสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาปิดของหุ้นในวันนั้นกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ความเบี่ยงเบนบวกที่มากขึ้นหมายถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคแสดงว่าผลกำไรระยะสั้นจะมากขึ้น ดังนั้นโอกาสที่จะคืนกำไรก็จะสูงขึ้น; ความเบี่ยงเบนลบที่มากขึ้นหมายถึงโอกาสในการเติมคืนของขายมากขึ้น

2. ดัชนีแนวโน้ม DMI (มาตรฐาน)

DMI หรือดัชนีแนวโน้ม เป็นดัชนีที่ใช้กันทั่วไป วิธีการใช้งานพื้นฐานคือดูการตัดกันระหว่าง +DI และ -DI หาก +DI ตัด -DI ขึ้นจะเป็นสัญญาณซื้อลงทุน; หาก +DI ตัด -DI ลงจะเป็นสัญญาณขาย หาก ADX ต่ำกว่า 20 จะหมายถึงระยะเวลาของการจัดระเบียบ ควรออกจากตลาดเพื่อรอดู; หาก ADX ขึ้นสูงระหว่าง 20-30 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ; หาก ADX สูงกว่า 50 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางไม่ว่าจะเป็นการขึ้นหรือการลง จะบ่งชี้ว่าตลาดใกล้จะเปลี่ยนทิศทาง

3. ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบกำหนดดัชนี EXPMA

เพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าในค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ นักวิเคราะห์จึงได้หาอัตรา EXPMA มาใช้แทนค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EXPMA จะปรับทิศทางอย่างรวดเร็วตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อ EPMA แรกตัดเข้าสู่ EPMA ที่สองจากด้านล่าง จะเพิ่มแรงดันขึ้นราคา; ในทางกลับกันเมื่อ EPMA แรกตัดเข้าสู่ EPMA ที่สองจากด้านบนจะลดแรงดันลงราคา

4. ดัชนี KDJ

K อยู่ที่ระดับ 20 ขึ้นไป ตัด D ขึ้นเป็นสัญญาณซื้อในระยะสั้น; K อยู่ที่ 80 ลงไป ตัด D ลงเป็นสัญญาณขายในระยะสั้น มีแนวโน้ม K สูงขึ้นต่ำกว่าหรือเท่ากับจุดต่ำสุด และใต้ 50 จะเกิดขึ้น 2 ครั้งติดต่อกัน นั่นจะส่งผลให้ราคาขึ้นได้สูง ในกรณีที่มีการขึ้น K จะสูงกว่าจุดต่ำ K ไปทาง D อย่างต่อเนื่องในระดับ 50 จะทำให้ราคาลดลงมาก

5. ดัชนี MACD

ดัชนีนี้มีพื้นฐานจากการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นและระยะยาวในการคำนวณค่าความแตกต่างกัน ในการขายเมื่อ MACD ลบจากสูง และเมื่อ MACD บวกลดลงจากต่ำ

6. อัตราการเคลื่อนไหว ROC

เมื่อ ROC ตัดลงจากศูนย์ จะเป็นสัญญาณขาย; เมื่อ ROC ตัดขึ้นจากศูนย์จะเป็นสัญญาณซื้อ เมื่อราคาทำสูงใหม่ ไม่นำไปอยู่ร่วมกับการลดลงของ ROC แสดงว่าพลังงานในการขึ้นจะแรงน้อย

7. ดัชนี RSI

RSI ระยะสั้นที่ต่ำกว่า 20 และตัดขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ; RSI ระยะสั้นที่สูงกว่า 80 และตัดลงเป็นสัญญาณขาย เมื่อราคาเป็นจุดต่ำลง ในทางกลับกัน RSI จะสูงกว่า จะแสดงถึงการกลับตัวในการขึ้น

8. ดัชนี TRIX

ดัชนีนี้ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 ชั้น ข้อดีของดัชนีนี้คือจะช่วยตัดเสียงรบกวนของการเคลื่อนไหวระยะสั้น และลดจำนวนการซื้อขายซึ่งอาจสูญเสียเงินทุน

9. ดัชนี William %R

ค่าต่ำกว่า 20 จะหมายถึงการซื้อมากเกินไป; ค่าที่สูงกว่า 80 จะหมายถึงการขายมากเกินไป ควรติดตามร่วมกับ RSI และ MTM จะมีประสิทธิผลดียิ่งขึ้น

10. ดัชนี ARBR

AR เป็นแนวโน้มที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ทางจิตวิทยา ในขณะที่ BR เป็นดัชนีอารมณ์ในสถานการณ์ปัจจุบัน จะมีการประเมินจากราคาที่เปิดในระดับที่เหมาะสม

สรุป

การวิเคราะห์ทางเทคนิคมีคุณสมบัติที่ชัดเจน เช่น ความครบถ้วน ตรงไปตรงมา ถูกต้อง และสามารถใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้การใช้ดัชนีทางเทคนิคสำหรับการซื้อขายสามารถให้ผลตอบแทนได้รวดเร็วกว่าในการวิเคราะห์พื้นฐาน