การพูดคุยทั่วไป

มีคำพูดว่า: “ทุกอย่างรู้ แต่อย่างเดียวเชี่ยวชาญ” พลังงานของคนเรามีจำกัด หากเรียนรู้ทักษะทุกอย่างอย่างตั้งใจ แม้ว่าจะมีพรสวรรค์ แต่ก็จะไม่เท่ากับคนที่มุ่งมั่นทำเทคนิคเดียว คนที่เชี่ยวชาญในเรื่องเฉพาะ มักจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในสาขาใดสาขาหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่มีความรู้ในสาขาอื่นๆ ก็ตาม ในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำธุรกรรมที่พิเศษอย่างหนึ่ง นั่นคือการล็อคสถานะ แต่การล็อคสถานะในฟอเร็กซ์มีความเสี่ยง และการใช้การล็อคสถานะให้ถูกต้องนั้นต้องมีประสบการณ์และความสามารถในการวิเคราะห์บางประการ ไม่ใช่ว่าผู้เริ่มต้นทั่วไปจะสามารถทำได้

การล็อคสถานะคืออะไร?

การล็อคสถานะนี้มีต้นกำเนิดจากตลาดฟิวเจอร์ส หมายถึงการที่ผู้ค้าเปิดสถานะในสินทรัพย์เดียวกันแต่มีทิศทางตรงกันข้าม โดยเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ล็อคออเดอร์” หรือ “การทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยง” ในที่นี้ผู้ค้าเปิดสถานะในบัญชีเดียวกันด้วยจำนวนที่เท่ากันของสินทรัพย์เดียวกันแต่มีทิศทางตรงกันข้าม เรียกว่า “ล็อคสถานะสมบูรณ์” หากเปิดสถานะในบัญชีเดียวกันโดยมีทิศทางตรงกันข้ามแต่จำนวนไม่เท่ากัน เรียกว่า “ล็อคสถานะบางส่วน” ในอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์ การล็อคสถานะเป็นวิธีการทำธุรกรรมในลักษณะคู่ขนานที่ผู้ค้ามุ่งหวังที่จะรักษากำไรที่มีอยู่ในขณะที่หลีกเลี่ยงการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น โดยทำการเปิดสถานะของคู่สกุลเงินเดียวกันในทิศทางที่ตรงข้าม

วิธีการล็อคสถานะทั่วไป

การล็อคสถานะในฟอเร็กซ์แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ การล็อคกำไร และการล็อคขาดทุน การล็อคกำไรคือเมื่อผู้ค้ามีความรู้สึกว่าการซื้อขายของคู่สกุลเงินนั้นมีการขึ้นราคา และผู้ค้าเชื่อว่ากระแสเดิมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ตลาดสามารถมีการดีดตัวชั่วคราว ในกรณีนี้ผู้ค้าไม่ต้องการที่จะสูญเสียกำไรที่ได้รับมาก่อนก่อนที่จะมีโอกาสเพิ่มขึ้น จึงเลือกที่จะถือสถานะเดิมไว้พร้อมกับเปิดสถานะใหม่ในทิศทางตรงกันข้าม

กฎการเทรดของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์

1. การล็อคสถานะมีการคิดค่าธรรมเนียมหรือไม่? บางโบรกเกอร์ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับการล็อคสถานะ ในขณะที่บางโบรกเกอร์จะมีการคิดค่าธรรมเนียมสำหรับทั้งสองฝั่งของคำสั่ง

2. การล็อคสถานะมีการใช้มาร์จิ้นหรือไม่? กฎระเบียบของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์แต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น ไม่ต้องใช้มาร์จิ้น (ค่ามัดจำล่วงหน้า = 0) และใช้มาร์จิ้นตั้งต้น (ค่ามัดจำล่วงหน้า = ครึ่งหนึ่งของมัดจำเริ่มต้น)

3. การล็อคสถานะมีการคิดดอกเบี้ยข้ามคืนหรือไม่? โดยปกติแล้ว โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์จะคิดดอกเบี้ยข้ามคืนสำหรับการล็อคสถานะ

4. อัตราการบังคับขายออก โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์มีกฎการบริหารความเสี่ยงของตนเอง ซึ่งรวมถึงการบังคับขายออก ในกรณีทั่วไป โบรกเกอร์จะบังคับขายเมื่ออัตราส่วนค่ามัดจำของบัญชีต่ำกว่าหรือเท่ากับ 50% หรือ 100%

ล็อคสถานะจะระเบิดไหม?

อาจจะระเบิดหรือไม่ก็ได้ อัตราส่วนเงินฝาก = มูลค่าที่แท้จริง / มูลค่าที่ใช้ล่วงหน้า x 100%

วิธีการใช้งานการล็อคสถานะ

1. เมื่อการซื้อขายในตลาดต่ำ ควรเปิดสถานะซื้อและขายในปริมาณที่เท่ากันในตำแหน่งใดๆ ในช่วงที่พิจารณา และเมื่อราคาใกล้เคียงจุดวิกฤต ควรปิดสถานะหนึ่งเพื่อทำกำไร พร้อมกับกำหนดจุดตัดขาดทุนที่อีกสถานะหนึ่ง

ความเสี่ยงจากการระเบิดสถานะ

1. แต่ละเมื่อมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ต้องมีเงินในบัญชีเพียงพอเพื่อหลีกเลี่ยงการระเบิดสถานะในกรณีที่แตกต่างของตลาดมากเกินไป

2. หากต้องการล็อคสถานะเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ควรเลือกใช้วิธีการล็อคสถานะสมบูรณ์

3. หากต้องการปลดล็อค ควรมีมาร์จิ้นเพียงพอเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ

บทสรุป

การล็อคกำไรเป็นการรักษากำไร ขณะที่การล็อคขาดทุนเป็นการรักษาเงินต้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่มีความเหมาะสม