ลักษณะทั่วไปของผู้ที่ทำให้บัญชีปิด

ผู้ที่มักจะพลาดท่าในการซื้อขายมีลักษณะร่วมกันดังนี้ การแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ค้าที่ทำการซื้อขายฟอเร็กซ์ทุกคนควรพิจารณาอย่างจริงจัง:

ลักษณะหนึ่ง: เทรดตรงข้ามกับแนวโน้มและใช้มาร์จิ้นสูง

การใช้มาร์จิ้นสูงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการปิดบัญชี การใช้เลเวอเรจในอัตราส่วนที่สูงและมีความสามารถในการรับความเสี่ยงต่ำ เรามักอยากได้เงินอย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงด้วยการใช้โบนัสเล็ก ๆ น้อย ๆ การลงทุนอย่างช้าๆ และสะสมผลกำไร เช่น ถ้ามีเงิน 1,000 ดอลล่าร์ควรเปิดแค่ 0.1 ล็อต ถ้า 2,000 ดอลล่าร์ควรเปิด 0.2 ล็อต และต่อไปเรื่อย ๆ

บางคนอาจคิดว่าใช้ล็อตเล็กเกินไปกำไรช้า แต่ความสำคัญของการทำกำไรคือการสร้างผลกำไรแบบทบต้น ไม่ใช่การทำเงินแบบเร็ว ต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า "ล็อตเล็ก กำไรช้า; น้ำไหลให้สม่ำเสมอ สะสมไปเรื่อยๆ" เพราะเมื่อทำกำไร เราจะไม่อยู่ในช่วงเงินทุนน้อย เมื่อเงินทุนถึง 5,000 ดอลล่าร์แล้ว จะสามารถหยิบทุนคืนได้ ในขณะนั้นจะตระหนักถึงการทำกำไรที่รวดเร็วมากขึ้น

ลักษณะที่สอง: ยึดติดกับการปฏิเสธความผิดพลาด

เมื่อทำผิดทิศทางไม่สามารถตัดสินใจได้ทันที กลับยึดติดกับการมองกราฟจนทำให้สูญเสียจนต้องปิดบัญชีโดยไม่ได้ตั้งใจ เรามาในตลาดนี้เพื่อทำเงิน ไม่ใช่เพื่อสร้างวีรบุรุษ

ใครก็ไม่อยากขัดแย้งกับเงิน ถ้าบัญชีปิดแล้วคุณจะไม่มีเงินทุนให้แก้ไข ดังนั้นต้องเรียนรู้การปกป้องทุนของคุณก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะทำเงินยังไง เมื่อรู้ว่าผิดแล้วส่วนใหญ่ควรหยุดที่ 30 จุดแล้วออกจากตลาด ถ้าวันนั้นทำผิด 2 รอบให้ปิดคอมพิวเตอร์และออกไป อย่าคิดแก้มือ

ลักษณะที่สาม: ปิดการทำรายการตลอดเวลา ไม่ตั้งค่า Stop Loss

เมื่อพูดคุยในการแลกเปลี่ยน นอกจากการร้องให้เปิดคำสั่งแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่พูดคุยกันมากที่สุดคือการตั้งค่า Stop Loss อย่างไรก็ตามหลายคนก็ยังพบว่าการไม่มี Stop Loss ทำให้สูญเสียบัญชี

ทันทีที่เปิดคำสั่งโดยไม่ตั้งค่า Stop Loss ก็รอรอนิ่งในการทำกำไร ดั่งนำตัวเองมัดติดอยู่กับรถยนต์ที่ไม่มีระบบเบรก ที่พร้อมจะพลิกคว่ำ แต่ยังหวังว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่เปิดคำสั่งไว้ แต่การเก็งกำไรไม่ใช่การเล่นพนัน การหวังโชคดีจะไม่ยั่งยืน ความสำเร็จจะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของเรา

ตลาดมีรูปแบบการดำเนินการของตนเอง ซึ่งไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใด ดังนั้นความหวั่นใจและพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่ดีนี้ต้องถูกกำจัดให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นจะมีปัญหาในอนาคต

ถ้าคุณกังวลว่าหากทำผิดทางแล้วราคาจะกลับไปสู่จุดที่ Stop Loss อย่างไร? คำตอบง่ายๆ ก็คือ "อย่าหวั่นใจ เริ่มใหม่" ความไม่หวั่นใจคือการเตือนตัวเองว่าการทำผิดทางที่ Stop Loss เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในกระบวนการซื้อขาย

การระบุตำแหน่ง Stop Loss กับขนาดตำแหน่งของเราควรจะเชื่อมโยงกัน หากเป็นการเทรดระยะกลางให้เพิ่ม Stop Loss ประมาณ 120 จุด สำหรับการเทรดระยะสั้นให้เฉลี่ย Stop Loss ไว้ที่ประมาณ 40 จุด ควรแบ่งเงินทุนออกเป็น 3 ส่วน หนึ่งส่วนเปิดคำสั่งทดลอง สองส่วนเพิ่มทุนในภายหลัง

ในระหว่างการซื้อขายควรใช้เงินทุนน้อย ลงทุนระยะสั้นบ้าง อย่าเทเงินทั้งหมด ต้องใช้ Stop Loss ทางเทคนิคและ Stop Loss ทางการเงินร่วมกัน โดยทั่วไป Stop Loss จะไม่เกิน 5% ของทุนรวม ถ้าขาดทุนเกิน 5% ควรหยุดการซื้อขายทันที