หนึ่ง การไหลของเงินทุนการค้า

ปกติหมายถึงการเคลื่อนไหวของเงินทุนที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ส่งออกและผู้นำเข้าในกระบวนการซื้อขายสินค้า

สอง การไหลของเงินทุนของธนาคาร

ในด้านหนึ่ง ธนาคารต้องการเงินทุนเพื่อประกอบธุรกิจ เช่น การทำกำไรจากส่วนต่างราคา การเก็งกำไร การปรับสถานะทั้งยาวและสั้น และการโอนย้ายสถานะ ในทางกลับกัน ยังเกิดขึ้นเมื่อธนาคารกลางของประเทศมีการแทรกแซงตลาดฟอเร็กซ์เพื่อต่อสู้กับการขึ้นหรือลงของสกุลเงิน เช่น ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้มีการขายเยนอย่างมากเพื่อต่อต้านการแข็งค่าที่สูงขึ้น การทำให้เยนลดลงจาก 102 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในต้นเดือน ลงมาอยู่ที่ 111.73 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ลดลงเกือบ 10%

สาม การไหลของเงินทุนเพื่อการประกันค่าเงิน

การเคลื่อนไหวของเงินทุนส่วนนี้ก่อตัวขึ้นจาก:

1. เงินทุนเพื่อการป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เสถียรในประเทศหรือภูมิภาคใด ทำให้เกิดการไหลออกของเงินทุนเพื่อต้องการความปลอดภัย เช่น ในวิกฤตโคโซโวในยุโรปเมื่อปีที่แล้ว สูงขึ้นทำให้เงินยูโรมีการขายออกอย่างมาก ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยูโรอ่อนค่าลง

2. เงินทุนเพื่อการรักษาอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนนี้มักจะลงทุนในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งก็คือการเคลื่อนที่ของเงินจากสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำมายังสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงจะได้รับความนิยมจากตลาด เช่น ดอลลาร์สหรัฐและปอนด์อังกฤษ นอกจากนี้ สถานะการเงินระหว่างประเทศและนโยบายทางการคลังของประเทศยังมีผลต่อการไหลของเงินส่วนนี้ด้วย

สี่ การไหลของเงินทุนเพื่อการเก็งกำไร

การเคลื่อนไหวของเงินทุนนี้มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินอย่างมาก และเป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วที่สุด เช่น ในวันที่ 7 ตุลาคม 1998 อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนอยู่ที่ 128 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ในตลาดยุโรปในคืนเดียวกัน เงินเยนมีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 111.70 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เพิ่มขึ้นเกือบ 13% ในวันเดียว

นักลงทุนฟอเร็กซ์จะติดตามทิศทางเงินทุนหลักได้อย่างไร?

1. ต้องเข้าใจสถานการณ์ของตลาดการเงินต่างๆ เช่น ตลาดหุ้น ซึ่งรวมถึงดัชนีดาวโจนส์ในสหรัฐฯ ดัชนีแนสแด็ก ดัชนีแฮงเซงในฮ่องกง และดัชนีนิกเกอิในญี่ปุ่น ตลาดพันธบัตรของประเทศหลักทั่วโลก ราคาทองคำ น้ำมัน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ

2. ต้องจับตาการเคลื่อนไหวเงินทุนระหว่างตลาดต่างๆ เช่น ตลาดหุ้นระหว่างประเทศกับตลาดฟอเร็กซ์

3. ต้องมีความสามารถในการแยกแยะการไหลของเงินทุนหลักและรองในระดับนานาชาติ

4. ต้องมีเครื่องมือการวิเคราะห์ที่เหมาะสม (ซอฟต์แวร์วิเคราะห์) เป็นพื้นฐาน เช่น กราฟเทคนิค ข่าวสารตลาดฟอเร็กซ์สด ข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนในเวลาจริง และข้อมูลเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง