การตั้งค่าหยุดขาดทุนคืออะไร

การซื้อขายฟอเร็กซ์ด้วยการตั้งค่าหยุดขาดทุนนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากการตั้งค่าหยุดขาดทุนในตำแหน่งที่เหมาะสมเป็นวิธีการที่สำคัญในการรับรองความปลอดภัยของการซื้อขายเงินทุน และยังสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนหลายคนไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรในทางปฏิบัติ ดังนั้นเราจะมาดูรายละเอียดกันต่อไป

การตั้งค่าหยุดขาดทุนตามระดับการขาดทุน

1. ตั้งค่าหยุดขาดทุนตามระดับการขาดทุน เช่น เมื่อราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาซื้อ 5% หรือ 10% จะหยุดขาดทุน โดยทั่วไปแล้วการตั้งค่าหยุดขาดทุนในกรณีที่มีการซื้อขายระยะสั้นมักจะอยู่ระหว่าง 2% ถึง 3% ในขณะที่การซื้อขายระยะยาวจะตั้งค่าหยุดขาดทุนในอัตราส่วนที่สูงกว่า จริงๆ แล้วการตั้งค่าหยุดขาดทุนในกรณีนี้ถือว่าเป็นการตั้งค่าที่ค่อนข้างช้า เพราะการขาดทุนจากการซื้อขายฟอเร็กซ์ได้เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ผู้ลงทุนมีการตั้งค่าหยุดขาดทุนไว้ก่อนที่จะเริ่มทำการซื้อขาย

การตั้งค่าหยุดขาดทุนตามราคาสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา

2. ตั้งค่าหยุดขาดทุนตามราคาที่สูงที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เมื่อราคาลดลงจากราคาสูงสุดถึงระดับที่กำหนด ผู้ที่เปิดการซื้อขายจะต้องปิดการทำรายการ หากในขณะที่ผู้ค้าในตลาดฟอเร็กซ์ขาดทุนจะเรียกว่าหยุดขาดทุน และถ้าอยู่ในสถานะที่มีกำไรก็จะเรียกว่าหยุดกำไร วิธีนี้มักจะใช้ในกรณีการหยุดกำไร โดยจะต้องดูการเคลื่อนไหวของราคาในกรณีที่ลดลงว่ามีการเคลื่อนไหวมากน้อยเพียงใด โดยทั่วไปแล้วการตั้งค่าหยุดกำไรและหยุดขาดทุน อาจแตกต่างกันไปตามแนวโน้ม แต่หลักการพื้นฐานนั้นคล้ายกัน สิ่งสำคัญคือวิธีการใช้งานที่เหมาะสม

การตั้งค่าหยุดขาดทุนตามดัชนีทางเทคนิค

3. ตั้งค่าหยุดขาดทุนตามระดับการสนับสนุนของดัชนีทางเทคนิค ซึ่งมีหลักการสำคัญ ได้แก่:

• (1) เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วัน, 30 วัน หรือ 125 วัน;
• (2) MACD ที่มีเส้นแท่งสีเขียว;

ไม่ยากที่จะมองออกว่าการตั้งค่าหยุดขาดทุนในฟอเร็กซ์ไม่ใช่แค่การกระทำเพียงอย่างเดียว บางครั้งยังต้องนำเอาดัชนีทางเทคนิคอื่น ๆ มาช่วยในการตัดสินใจ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ผู้ลงทุนไม่ควรละเลย บางครั้งการตั้งค่าหยุดขาดทุนที่เหมาะสมอาจเป็นการทำกำไรได้เช่นกัน