ความเรียบของราคา

ดังที่เราได้กล่าวไว้ เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถทำให้ราคามีความเรียบมากขึ้น เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่มีหลายประเภท และแต่ละประเภทก็มีระดับความเรียบที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่จะมีความเรียบมากขึ้น การตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาเช่นกัน โดยค่าที่เรียบมากจะตอบสนองได้ช้ากว่า ในขณะที่ค่าที่เป็นคลื่นจะตอบสนองได้รวดเร็วกว่า เพื่อที่จะได้เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เรียบมากขึ้น คุณจำเป็นต้องมีข้อมูลราคาเปิดปิดเฉลี่ยในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ขณะนี้คุณอาจคิดว่า “ฉันจะใช้เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อการซื้อขายอย่างไร?”

ประเภทของเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่

อันดับแรกที่เราต้องรู้คือมีเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่สองประเภท คือ 1. เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 2. เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเลขชี้กำลัง เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA) เป็นประเภทที่ง่ายที่สุดในตระกูลเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่ายหมายถึงการพิจารณาราคาปิดในช่วงเวลาที่กำหนดแล้วหาค่าเฉลี่ยอย่างง่าย โดยทั่วไปแล้วเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ถูกพูดถึงก็จะหมายถึงเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย

การคำนวณ SMA

ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากคุณต้องการที่จะวาดเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่ายในกราฟ 1 ชั่วโมงสำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา 5 ช่วงเวลา คุณจะต้องนำราคาปิดของ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา มาบวกกันแล้วหารด้วย 5 เมื่อคุณทำเช่นนี้ คุณจะคำนวณหาค่าเฉลี่ยราคาปิดในช่วง 5 ชั่วโมงที่ผ่านมาได้ จากนั้นเมื่อคุณเชื่อมต่อราคานี้ให้เป็นเส้น คุณจะได้เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ หากคุณต้องการที่จะวาดในกราฟ 30 นาที ก็จะต้องใช้ราคาปิดใน 150 นาทีที่ผ่านมา เป็นต้น

ประโยชน์ของการเข้าใจเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่

กราฟเกือบทั้งหมดจะคำนวณเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ให้โดยอัตโนมัติ เหตุผลที่เราต้องอธิบายวิธีการคำนวณเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่คือเพื่อให้เราสามารถเข้าใจมันได้ดีขึ้น และใช้มันเพื่อเป็นแนวทางในการซื้อขายของเรา การเข้าใจว่าตัวชี้วัดหนึ่งทำงานอย่างไร หมายถึงคุณสามารถปรับเปลี่ยนและสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่แตกต่างกันได้ตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด เช่นเดียวกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ก็มีความล่าช้าอยู่บ้าง เนื่องจากมันคำนวณจากราคาประวัติ คุณจึงพึ่งพาแค่การเคลื่อนที่ทั่วไปของราคาล่าสุดและทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาที่คาดการณ์ในระยะสั้น