1. แนวโน้มเป็นทั้งเพื่อนและศัตรู

เนื่องจากแนวโน้มมีความเสถียร จึงทำให้เราระมัดระวังน้อยลง ดังนั้นต้องจำไว้เสมอว่า เมื่อแนวโน้มดำเนินไปนานเท่าไหร่ เวลาก็ยิ่งใกล้ที่มันจะถูกทำลายมากขึ้นเท่านั้น

2. ซื้อเมื่อได้ยินข่าว (ขายเมื่อได้ข่าว)

เมื่อได้ยินข่าว ควรจะซื้อ (ขาย) และเมื่อข่าวได้รับการยืนยันแล้วให้ขาย (ซื้อ) อย่ามาคาดคะเนความจริงของข่าว แต่ควรทำงานตามทิศทางการเปลี่ยนแปลงของข่าวที่เกิดขึ้น ซื้อเมื่อมีข่าวดี และขายเมื่อมีข่าวไม่ดี เมื่อข่าวชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นข่าวจริงหรือเท็จควรทำการขายโดยทันทีเพื่อทำกำไร

3. ซื้อเมื่อราคาขาขึ้น ไม่ซื้อเมื่อราคาขาลง

ในเวลาที่แนวโน้มขาขึ้น ความเสี่ยงในการซื้อในราคาสูงก็จะมี เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในทางกลับกัน เมื่อแนวโน้มขาลง การซื้อในราคาต่ำที่สุดถือเป็นการทำให้ถูกต้อง แต่เงินทุนของคุณอาจถูกใช้ไปในการซื้อครั้งก่อนหน้านี้แล้ว

4. "พีระมิด" เพิ่มการลงทุน

เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินเพิ่มขึ้น ควรทำตามหลักการ "จำนวนเพิ่มขึ้นแต่ละครั้งน้อยกว่าครั้งที่แล้ว" เนื่องจากราคาสูงยิ่งมาก ยิ่งมีโอกาสที่จะเข้าใกล้จุดสูงสุดมากขึ้นและอันตรายก็จะมากขึ้น

5. อย่าเพิ่มเงินลงทุนเมื่อเกิดการขาดทุน

เมื่อซื้อหรือขายสกุลเงินหนึ่ง ๆ และตลาดอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามอย่างกระทันหัน บางคนอาจเพิ่มการลงทุน นี่ถือว่าเป็นความเสี่ยง หากอัตราแลกเปลี่ยนไม่กลับแล้ว ผลลัพธ์คือการขาดทุนที่เลวร้าย

6. สร้างตำแหน่งเมื่อมีการทะลุกรอบ

หากกรอบการซื้อขายเป็นแนวโน้มแบบกระทิงระยะยาว การสร้างตำแหน่งเมื่อมีการทะลุกรอบจะมีโอกาสทำกำไรสูงกว่า

7. อย่าตามหาราคาทั้งเลขกลมอย่างตาบอด

อาจจะสามารถปิดการซื้อขายเพื่อทำเงิน แต่กลับพลาดโอกาสที่ดีที่สุดเพราะรอโอกาสตามเป้าหมายดั้งเดิม

8. อย่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมตลาดที่ไม่ชัดเจน

เมื่อรู้สึกว่าทิศทางของตลาดแลกเปลี่ยนเงินไม่ชัดเจน และขาดความมั่นใจ ควรหลีกเลี่ยงการทำการค้า ไม่เช่นนั้นจะง่ายต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาด

ท้ายที่สุด นักวิเคราะห์ได้กล่าวคำแนะนำที่ซื่อสัตย์ว่า "การทำการแลกเปลี่ยนเงินต้องซื่อสัตย์ต่อการตัดสินใจของตัวเอง การเรียนรู้การทำการแลกเปลี่ยนต้องมาจากการปฏิบัติจริง ไม่มีผู้ชนะตลอดไป มีแต่กำไรที่ยั่งยืน"