บทนำ

ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน มาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยนมีบทบาทสำคัญมาก สำหรับผู้เริ่มต้นที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดการลงทุน หากไม่เข้าใจเกี่ยวกับมาร์จิน อาจทำให้บัญชีถูกปิด หรือได้รับโทรศัพท์จากโบรกเกอร์เพื่อขอให้เพิ่มเงินมาร์จิน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่ามาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยนคืออะไร?

ความหมายของการแลกเปลี่ยนเงินตรา

การแลกเปลี่ยนเงินตราคือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศ เช่น อัตราแลกเปลี่ยน GBP/JPY ที่ 120.10 หมายถึง 1 ดอลลาร์สามารถแลกได้ 120.10 เยน。มาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยนหมายถึงรูปแบบการใช้เงินมาร์จินในการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยน เนื่องจากตลาดนี้มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 15 ล้านล้านดอลลาร์ และในเดือนเมษายน 2010 มีปริมาณการซื้อขายรายวันถึง 40 ล้านล้านดอลลาร์ ตลาดแลกเปลี่ยนมีขนาดใหญ่กว่าตลาดฟิวเจอร์สมากถึง 46 เท่า ดังนั้น ตลาดแลกเปลี่ยนจึงเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ซึ่งเปรียบเทียบกับตลาดการเงินอื่น ๆ จะมีขนาดและปริมาณตัวเลขที่น้อยลงกว่า!

มาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยนคืออะไร?

มาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยนคือหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่มีการพัฒนาขึ้นในลอนดอนในปี 1980 ปัจจุบันมาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยนหมายถึงการที่นักลงทุนใช้เงินทุนของตนเองเป็นหลักประกัน เพื่อนำไปใช้ในการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนที่ได้การสนับสนุนจากธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้รเพิ่มขยายการเงินการลงทุนของนักลงทุน ดังนั้นมาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยนจึงมักเรียกว่า "เลเวอเรจ" หากนักลงทุน A ทำการซื้อขายมาร์จินในอัตราส่วน 1% โดยคาดการณ์ว่าเยนจะขึ้น เมื่อใส่เงินทุน 100,000 ดอลลาร์ (1000 × 1%) จะสามารถซื้อตราสารของเยนในมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ได้ หากอัตราแลกเปลี่ยนเยนต่อดอลลาร์เพิ่มขึ้น 1% ก็เท่ากับนักลงทุนจะได้รับกำไร 100,000 ดอลลาร์ โดยอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงสูงถึง 100% ภายในระยะเวลาสั้น แต่ถ้าหากเงินเยนลดลง 1% นักลงทุนจะสูญเสียเงินทุนทั้งหมด หากนักลงทุนขาดทุนเกินขีดจำกัดบางประการ โบรกเกอร์มีสิทธิหยุดการขาดทุนได้

ข้อดีและข้อได้เปรียบของมาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยน

1. การซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงและรูปแบบ T+0: การซื้อขายมาร์จินสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง (ยกเว้นวันหยุดสุดสัปดาห์) นอกจากนี้ยังทำให้การซื้อขายของนักลงทุนเป็นไปอย่างสะดวกสบาย นักลงทุนสามารถเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนเพื่อซื้อขายได้ในทุกช่วงเวลา และสามารถเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนได้ตามที่ต้องการ。

2. การซื้อขายสองทิศทาง: นักลงทุนสามารถมองว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ในช่วงเวลาหนึ่ง ค่าเงินมีการเปลี่ยนแปลง นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการซื้อในราคาต่ำและขายในราคาสูง หรือขายในราคาสูงแล้วซื้อในราคาต่ำ ดังนั้นหลักการสองทิศทางนี้มีความคล้ายคลึงกับการซื้อขายฟิวเจอร์ส。

3. ความสามารถในการทำธุรกรรมสูง: ตลาดแลกเปลี่ยนมีมูลค่าการทำธุรกรรมในแต่ละวันหลายล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ามีราคาอยู่ตลอดเวลาและสามารถทำธุรกรรมได้ง่าย พร้อมกับมีความเสี่ยงถูกควบคุมราคาได้ยาก。

4. การเพิ่มเสรีภาพจากเลเวอเรจ: นี่คือความแตกต่างที่สำคัญจากการซื้อขายจริง นักลงทุนสามารถใช้เลเวอเรจในการกู้ยืมจากโบรกเกอร์หรือตลาดการเงินเพื่อเข้าร่วมในตลาดแลกเปลี่ยนโดยต้องการใช้เงินเพียงเล็กน้อย。

5. นักลงทุนสามารถเลือกเงินตราที่หลากหลายในการทำธุรกรรม มีสกุลเงินที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ทั้งหมดอาจเป็นผลิตภัณฑ์ในการซื้อขายต่าง ๆ

ข้อควรระวังในมาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยน

อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดที่สมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะมีข้อดี แต่ก็มีข้อเสีย นักลงทุนควรระมัดระวังในการเลือกช่องทางการลงทุน สำหรับนักลงทุนที่ไม่เข้าใจความเสี่ยง ควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ในมาร์จินการซื้อขายแลกเปลี่ยน เพราะปัจจุบันในประเทศยังไม่มีการควบคุมในด้านนี้ และถือว่าอยู่ในพื้นที่สีเทา นักลงทุนควรเลือกใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีความน่าเชื่อถือที่จะดำเนินการซื้อขายนั้น ๆ

ข้อกำหนดสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยน

การซื้อขายแลกเปลี่ยนมาร์จินต้องการเงินทุนที่เพียงพอ เวลาเพียงพอ ความสามารถในการวิเคราะห์แนวโน้มอย่างมีประสิทธิภาพ ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกรรม และจิตใจอันแน่นอน หากต้องการมีผลสำเร็จในมาร์จิินการลงทุน ต้องมีทั้ง 5 อย่างนี้ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นักลงทุนจะต้องรอแต่ความล้มเหลว!