หลักการของการซื้อขายฟอเร็กซ์มาร์จิ้นคืออะไร?

การซื้อขายฟอเร็กซ์มาร์จิ้นเรียกว่าการซื้อขายเสมือนหรือการซื้อขายโดยใช้เงินมัดจำ ก็คือการที่นักลงทุนใช้เงินทุนของตนเองเป็นหลักประกัน เพื่อให้ธนาคารหรือโบรกเกอร์เสนอการเงินเพื่อขยายการซื้อขายฟอเร็กซ์ นั่นคือการเพิ่มทุนการซื้อขายของนักลงทุนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

อัตราส่วนการเงิน

ขนาดของการเงินที่หน่วยงานเสนอโดยทั่วไปจะถูกกำหนดโดยธนาคารหรือโบรกเกอร์ โดยอัตราส่วนการเงินที่มากขึ้นจะทำให้ลูกค้าต้องใช้เงินลงทุนน้อยลง อัตราส่วนการเงินระหว่างประเทศหรือที่เรียกว่าเลเวอเรจอยู่ระหว่าง 20 ถึง 400 เท่า สัญญามาตรฐานในตลาดฟอเร็กซ์คือ 10,000 บาทต่อหนึ่งล็อต (หมายถึงสกุลเงินพื้นฐานซึ่งคือสกุลเงินแรกในคู่สกุลเงิน) หากโบรกเกอร์เสนอเลเวอเรจที่ 400 เท่า จะต้องใช้เงินมัดจำ 250 บาท เพื่อทำการซื้อขายหนึ่งล็อต (หากสกุลเงินที่ทำการซื้อขายต่างจากสกุลเงินของเงินมัดจำในบัญชีจะต้องแปลงค่า)

เหตุผลในการให้เงินกู้ยืมมากขึ้น

เหตุผลที่ธนาคารหรือโบรกเกอร์กล้าเสนออัตราส่วนการเงินที่สูงขึ้น เนื่องจากความผันผวนเฉลี่ยของตลาดฟอเร็กซ์ในแต่ละวันมีน้อย โดยอยู่ที่ประมาณ 1% และตลาดฟอเร็กซ์มีการซื้อขายต่อเนื่อง บวกกับการใช้เทคโนโลยีที่ครบครัน ธนาคารหรือโบรกเกอร์สามารถใช้เงินมัดจำที่น้อยของนักลงทุนเพื่อรองรับความผันผวนของตลาด โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงด้วยตนเอง

ลักษณะการซื้อขายฟอเร็กซ์มาร์จิ้น

การซื้อขายฟอเร็กซ์มาร์จิ้นเป็นการซื้อขายที่แท้จริง ซึ่งมีลักษณะบางอย่างเหมือนการซื้อขายฟิวเจอร์ส เช่น การซื้อขายสัญญาและการให้เงินกู้ยืม แต่ตำแหน่งการซื้อขายสามารถถือครองได้ในระยะยาว จนกว่าจะมีการปิดสถานะอย่างสมัครใจหรือถูกบังคับ ไม่ใช่เป็นเพียงการพนันง่ายๆ แต่เป็นการเล่นเกมระหว่างผู้เข้าร่วมทั้งหมดในตลาด รวมถึงธนาคารกลางของแต่ละประเทศ