เทคนิคการใช้ดัชนี MACD เพื่อจับจุดขายที่ดีที่สุด

ในการลงทุนจริง ดัชนี MACD ไม่เพียงแต่มีฟังก์ชันในการจับจุดต่ำสุด (การเบี่ยงเบนคือจุดต่ำสุด) และการจับจุดที่มีการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง (MACD กลับมาเป็นบวกสองครั้งซื้อเข้า) ยังช่วยในการจับจุดที่สิ้นสุดการปรับฐาน (การเบี่ยงเบนขึ้นและลงซื้อลง) ทำให้คุณเพลิดเพลินกับความสุขในการซื้อแล้วราคาขึ้น ในเวลาเดียวกัน มันยังมีฟังก์ชันที่ทำให้คุณจับจุดขายที่ดีที่สุด ช่วยให้คุณหนีจากจุดสูงสุดได้อย่างสำเร็จและสัมผัสกับความรู้สึกของการเก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่

วิธีการใช้ MACD เพื่อตัดสินใจขายได้แก่ การปรับแต่งพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับ MACD โดยตั้งค่าพารามิเตอร์ EMA เร็วของ MACD ที่ 8 พารามิเตอร์ EMA ช้าสำหรับ 13 และพารามิเตอร์ DIF ที่ 9 โดยพารามิเตอร์ของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะเป็น 5, 10, 30 เมื่อจัดตั้งพารามิเตอร์เรียบร้อยแล้ว ก็ตามหาจุดขาย เนื่องจากมีจุดขายหลายจุดต่อหุ้นที่นี่จะแนะนำสองเทคนิคการหนีจากจุดสูงสุดที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมมากที่สุด

จุดขายแรก หรือที่เรียกว่าจุดสูงสุดสัมพัทธ์ หมายถึงราคาหุ้นที่หลังจากการปรับขึ้นอย่างมากจะปรากฏแนวระดับ ซึ่งก่อให้เกิดจุดสูงสุดสัมพัทธ์ นักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่มีทุนจำนวนมาก ต้องขายหรือหั่นพอร์ตในจุดขายแรก เทคนิคในการตัดสินใจว่าจุดขายแรกเกิดขึ้นคือ “ราคาหุ้นมีแนวระดับ และ MACD ตัดลงขาย” กล่าวคือ เมื่อราคาหุ้นทรงตัวหลังจากการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5 วัน และ 10 วันยังไม่ได้ตัดกัน แต่ MACD กลับตัดลง วันนั้นจะเป็นวันที่จุดขายแรกเกิดขึ้น ควรขายหรือหั่นพอร์ต

จุดขายหลอก หรือที่เรียกว่าจุดสูงสุดสัมบูรณ์ หลังจากที่จุดขายแรกเกิดขึ้นแล้ว หุ้นบางตัวอาจไม่ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่การปรับตัวลงกลับทำให้มีการทำให้ดูเหมือนว่าการ breakout ขึ้นราคาอีกครั้งที่จุดสูงสุด การเพิ่มขึ้นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะปล่อยของจากเจ้ามือ เรียกว่าการดันราคาแบบหลอก จุดสูงสุดที่เกิดขึ้นในขณะนี้มักจะกลายเป็นจุดสูงสุดในตลาดขาขึ้น ดังนั้นจึงเรียกว่าจุดสูงสุดสัมบูรณ์ หากในขณะนั้นคุณไม่สามารถหนีได้อย่างราบรื่น ผลที่ตามมาจะเป็นที่น่าสยดสยอง เทคนิคในการตัดสินใจว่าจุดสูงสุดสัมบูรณ์เกิดขึ้นคือ “ราคาหุ้นและ MACD อยู่ในแนวเบี่ยงเบน” กล่าวคือ เมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทำระดับสูงใหม่ ในขณะที่ MACD ไม่สามารถปรับตัวสูงตามไปได้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นสัญญาณราคาหุ้นถึงจุดสูงสุด

สิ่งที่ต้องระบุคือเมื่อขายหุ้นที่จุดสูงสุดสัมบูรณ์ คุณไม่ควรรอ MACD ตัดกันก่อนที่จะขาย เพราะเมื่อ MACD ตัดเตือน ราคาหุ้นได้ลดลงไปมากแล้ว สำหรับการขายหุ้นที่จุดสูงสุดหลอก จะต้องพิจารณารูปแบบ K-line โดยทั่วไปแล้ว ในกระบวนการขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว หากเกิด “เปิดสูง ลดต่ำ ยิงแนวรับ” หรือ “ดาบยาวบน และราคายืน” จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขาย สุดท้ายนี้ต้องเตือนว่า เนื่องจากดัชนี MACD มีความล่าช้า การใช้ MACD ในการค้นหาจุดขายที่ดีที่สุดนั้นเหมาะสำหรับหุ้นที่มีการปรับขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากนั้นทำเป็นถานหัวไม่เหมาะสำหรับหุ้นที่ลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ข้างต้นทั้งสองจุดมักจะเกิดขึ้นหลังจากหุ้นมีการปรับขึ้นอย่างมาก กล่าวคือ มันจะปรากฏหลังจากแนวโน้มการขึ้นหลักของหุ้น หากหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นอย่างมากและยังไม่มีแนวโน้มการขึ้นหลัก อย่าทำตามวิธีข้างต้น